เมนู

ก็ทิ้งเสียในที่ปราศจากของเขียว หรือเทลงในน้ำที่ไม่มีตัวสัตว์ ท่านผู้นั้นเก็บ
อาสนะ เก็บน้ำฉัน เก็บน้ำใช้เก็บถาดสำรับ กวาดโรงภัตร ท่านผู้ใดเห็น
หม้อน้ำฉัน น้ำใช้ หรือหม้อนำชำระว่างเปล่า ท่านผู้นั้นก็เข้าไปตั้งไว้ ถ้า
เหลือวิสัยของท่านก็กวักมือเรียกรูปที่สองแล้วช่วยกันยกเข้าไปตั้งไว้
พวกข้าพระองค์ไม่เปล่งวาจาเพราะข้อนั้นเป็นปัจจัย และทุกวันที่ 5
พวกข้าพระองค์นั่งสนทนาธรรมกถาตลอดคืนยังรุ่ง ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
พวกข้าพระองค์ เป็นผู้ไม่ประมาท มิความเพียร ส่งตนไปอยู่ด้วยประการ
ฉะนี้แล.

ธรรมเครื่องอยู่สำราญ 9


[365] พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็เมื่อพวกเธอเป็นผู้ไม่ประมาท
มีความเพียร ส่งตนไปอยู่อย่างนี้คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญ
ที่พวกเธอได้เข้าถึงแล้ว มีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมีพระพุทธเจ้าข้า ขอประทาน
พระวโรกาส พวกข้าพระองค์หวังอยู่เพียงว่า พวกข้าพระองค์สงัดจากกาม
สงัดจากอกุศลธรรม เข้าถึงปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มีปีติและสุข เกิด
แต่วิเวกอยู่ เมื่อพวกข้าพระองค์เป็นผู้ไม่ประมาท มีความเพียรส่งตนไปอยู่
คุณวิเศษคือญาณทัสสนะ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่า
ธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญนี้แล พวกข้าพระองค์ได้เข้าถึงแล้ว.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะอันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญ
ที่พวกเธอได้เข้าถึงแล้ว เพื่อความก้าวล่วง เพื่อความระงับ แห่งธรรมเป็น
เครื่องอยู่อันนี้ อย่างอื่นมีอยู่หรือ.

อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า พวกข้าพระองค์เข้าถึงทุติยฌาน มีความผ่องใสแห่งจิตในภายใน
เป็นธรรมเอกผุดขึ้น เพราะวิตกวิจารสงบไป ไม่มีวิตกไม่มีวิจาร มีปีติ
และสุขอันเกิดแต่สมาธิอยู่ อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอัน
สามารถการทำความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่อง
อยู่สำราญ เพื่อความก้าวล่วง เพื่อความระงับแห่งธรรมเป็นเครื่องอยู่อันนี้
อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถ
กระทำความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่นมีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า พวกข้าพระองค์มีอุเบกขา มีสติสัมปชัญญะ เสวยสุขด้วย
นามกาย เพราะปีติสิ้นไป เข้าถึงตติยฌานที่พระอริยเจ้าทั้งหลายสรรเสริญ
ว่า ผู้ได้ฌานนี้เป็นผู้มีอุเบกขา มีสติ อยู่เป็นสุข อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือ
ญาณทัสสนะ. อันสามารถการทำความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถการทำ
ความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่นมีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า พวกข้าพระองค์เข้าถึงจตุตถฌาน ไม่มีทุกข์ไม่มีสุข เพราะละ
สุขและทุกข์ และดับโสมนัสโทมนัสก่อนๆได้ มีอุเบกขาเป็นเหตุให้สติบริสุทธิ์
อยู่ อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถการทำความเป็นพระอริยะ
...อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะ อัน
สามารถการทำความเป็นพระอริยะ. . .อย่างอื่นมีอยู่หรือ.

อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า เพราะล่วงเสียซึ่งรูปสัญญาโดยประการทั้งปวง เพราะไม่ใส่ใจ
ซึ่งปฏิฆสัญญา พวกข้าพระองค์เข้าถึงอากาสานัญจายตนฌาน ด้วย
พิจารณาว่า อากาศหาที่สุดมิได้ ดังนี้อยู่ อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือญาณ
ทัสสนะ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่นมีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า เพราะล่วงเสียซึ่งอากาสานัญจายตนะโดยประการทั้งปวง
พวกข้าพระองค์เข้าถึงวิญญาณัญจายตนฌาน ด้วยพิจารณาว่า วิญญาณหา
ที่สุดมิได้ ดังนี้อยู่ อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือญาณทัสสนะ อันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่นมีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า เพราะล่วงเสียซึ่งวิญญาณัญจายตนะโดยประการทั้ง
ปวง พวกข้าพระองค์เข้าถึงอากิญจัญญายตนฌาน ด้วยพิจารณาว่าน้อยหนึ่ง
ไม่มี ดังนี้อยู่ อันนี้ได้แก่ คุณวิเศษคือญาณทัสสนะ อันสามารถกระทำความ
เป็นพระอริยะ...อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะ...อย่างอื่นมีอยู่หรือ
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า เพราะล่วงเสียซึ่งอากิญจัญญายตนะโดยประการทั้ง
ปวง พวกข้าพระองค์เข้าถึงเนวสัญญานาสัญญายตนฌานอยู่ อันนี้ได้แก่คุณ

วิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ... อย่างอื่น.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ก็คุณวิเศษคือญาณทัสสนะอันสามารถกระทำ
ความเป็นพระอริยะอันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์ ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญ
ที่พวกเธอได้เข้าถึงแล้ว เพื่อความก้าวล่วง เพื่อความระงับ แห่งธรรมเป็น
เครื่องอยู่อันนี้ อย่างอื่นมีอยู่หรือ.
อ. เพราะเหตุอะไรเล่า จะไม่พึงมี พระพุทธเจ้าข้า พวกข้าพระองค์
หวังอยู่เพียงว่า เพราะล่วงเสียซึ่งเนวสัญญาณนาสัญญายตนะโดยประการ
ทั้งปวง พวกข้าพระองค์เข้าถึงสัญญาเวทยิตนิโรธอยู่ เพราะเห็นด้วยปัญญา
อาสวะของท่านผู้นั้นย่อมหมดสิ้นไป อันนี้ได้แก่คุณวิเศษคือญาณ
ทัสสนะ อันสามารถกระทำความเป็นพระอริยะ อันยิ่งกว่าธรรมของมนุษย์
ซึ่งเป็นเครื่องอยู่สำราญอย่างอื่น เพื่อความก้าวล่วง เพื่อความระงับแห่งธรรม
เป็นเครื่องอยู่อันนี้ ได้เข้าถึงแล้วพระพุทธเจ้าข้า อนึ่ง พวกข้าพระองค์ยังไม่
พิจารณาเห็นธรรมเป็นเครื่องอยู่สำราญอย่างอื่น ที่ยิ่งกว่าหรือประณีตกว่า
ธรรมเป็นเครื่องอยู่สำราญอันนี้.
พ. ดีละ ดีละ อนุรุทธะ ธรรมเป็นเครื่องอยู่สำราญอย่างอื่น ที่
ยิ่งกว่าหรือประณีตกว่า ธรรมเป็นเครื่องอยู่สำราญอันนี้หามีไม่.
[366] ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้ายังท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระ-
นันทิยะ และท่านพระกิมิละ ให้เห็นแจ้ง ให้สมาทานให้อาจหาญให้ร่าเริง
ด้วยธรรมีกถา แล้วเสด็จลุกจากอาสนะหลีกไป ท่านพระอนุรุทธะ ท่าน
พระนันทิยะ และท่านพระกิมิละ ส่งเสด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า ครั้นกลับจากที่
นั้นแล้ว ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละ ได้กล่าวกะท่านพระอนุรุทธะว่า
พวกกระผมได้บอกคุณวิเศษอันนั้นแก่ท่านอนุรุทธะอย่างนี้หรือว่า พวกเรา
ได้วิหารสมาบัติเหล่านี้ด้วย. ท่านอนุรุทธะประกาศคุณวิเศษอันใดของ

พวกกระผม จนกระทั่งถึงความสิ้นอาสวะในที่เฉพาะพระพักตร์พระผู้มี
พระภาคเจ้า
อ. พวกท่านผู้มีอายุมิได้บอกแก่กระผมอย่างนี้ว่า พวกเราได้
วิหารสมาบัติเหล่านี้ด้วย ๆ แต่ว่ากระผมกำหนดใจของพวกท่านผู้มีอายุด้วยใจ
แล้วรู้ได้ว่า ท่านผู้มีอายุเหล่านี้ ได้วิหารสมาบัติเหล่านี้ด้วยๆ แม้พวกเทวดาก็
ได้บอกเนื้อความข้อนี้เก่กระผมว่า ท่านผู้มีอายุเหล่านี้ ได้วิหารสมาบัติเหล่า
นี้ด้วยๆ กระผมถูกพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามปัญหาแล้ว จึงทูลถวาย
พยากรณ์เนื้อความนั้น.

ชื่อเสียงของพระอนุรุทธะเป็นต้น


[367] ลำดับนั้น ทีฆปรชนยักษ์ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึง
ที่ประทับ ครั้นแล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ได้ยืนอยู่ ณ ที่ควรส่วน
ข้างหนึ่ง แล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
เป็นลาภของชาววัชชี ประชาชนชาววัชชีได้ดีแล้ว ในเหตุที่พระตถาคตอรหันต-
สัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับอยู่ และกุลบุตร 3 ท่านเหล่านี้ คือ ท่าน
พระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิมิละ มาพักอยู่.
พวกภุมมเทวดาได้ส่งเสียงของทีฆปรชนยักษ์แล้วได้ประกาศ
(ต่อไป) ว่า ท่านผู้เจริญทั้งหลายเป็นลาภของชาววัชชี ประชาชนชาววัชชีได้ดี
แล้ว ในเหตุที่พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประทับอยู่ และกุลบุตร
3 ท่าน คือ ท่านพระอนุรุทธะ ท่านพระนันทิยะ และท่านพระกิลิมะ มาพักอยู่.
พวกเทพชั้นจาตุมหาราช ได้ฟังเสียงของพวกภุมมเทวดาแล้วได้
ประกาศ (ต่อไป)...พวกชั้นดาวดึงส์ได้ฟังเสียงของพวกเทพชั้นจาตุมหาราช
แล้วได้ประกาศ (ต่อไป)...พวกเทพชั้นยามาได้ส่งเสียงของพวกเทพชั้นดาว-